25680407pm--ทำครบทั้งทำกิจและทำจิต

7 เม.ย. 68 - ทำครบทั้งทำกิจและทำจิต : อาจารย์พุทธทาสเคยพูดอยู่เสมอว่า ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่สงบเย็นและเป็นประโยชน์ อันนี้เป็นคำพูดที่เรียกว่าครอบคลุมทั้งการทำจิตและทำกิจ เพราะว่าสำหรับชาวพุทธ การทำจิตสุดท้ายคือเพื่อความสงบเย็น สงบเย็นคือสงบที่ใจโดยที่ไม่พึ่งอิงสิ่งแวดล้อม แม้จะอึกทึก พลุกพล่าน จอแจ เสียงดังอย่างไร คนจะไม่น่ารัก ทำตัวน่าระอา แต่ใจก็เป็นปกติ สงบเย็นได้ แม้กระทั่งมีสิ่งล่อเร้าเย้ายวนก็ไม่หวั่นไหว ใจไม่กระเพื่อม นี่คือสงบเย็น แต่ว่าสงบเย็นอย่างเดียวไม่พอ ต้องเป็นประโยชน์ด้วย เป็นประโยชน์คือการทำกิจ ทำกิจเพื่อช่วยเหลือส่วนรวม ไม่ใช่เก็บตัวอยู่แต่ในป่า หรืออยู่ในวัด มุ่งมั่นให้จิตสงบเย็น แต่ว่าไม่คิดจะไปทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม ไฟไหม้ก็ไม่สนใจถือว่าป่าไม่ใช่ของเรา ใครจะมาขโมยสมุนไพรในวัดก็ไม่กระตือรือร้นที่จะจัดการไล่ออกไป เพราะคิดว่าไม่ใช่ของเรา   อันนี้เรียกว่าทำจิตแต่ไม่ทำกิจ แล้วที่จริงก็ทำจิตไม่ถูกต้องด้วย เพราะว่าการทำจิต อย่างน้อยต้องมีความกตัญญูรู้คุณ หรือต้องมีความเมตตา กตัญญูรู้คุณต่อสิ่งแวดล้อม มีความเมตตาต่อสรรพสัตว์ ฉะนั้นมีใครมาทำลายป่า ถ้าเรามีเมตตาจริง เราก็จะไม่อยู่เฉย จะเข้าไปขับไล่ไม่ให้มาทำลายป่า ไม่ให้มาทำลายสัตว์ เราจะมีความกตัญญูต่อธรรมชาติ แล้วเราก็จะช่วยกันรักษาธรรมชาติให้ดี ความกตัญญูรู้คุณ ความเมตตาก็เป็นเรื่องการทำจิต ไม่ใช่แค่ปล่อยวางอย่างเดียว   แล้วคนไทยก็ไม่เข้าใจ ชาวพุทธก็ไม่เข้าใจ ไปเข้าใจว่าการปล่อยวางคือการวางเฉย ไม่ทำอะไร การวางเฉยไม่ทำอะไรนี่เป็นเรื่องการไม่ทำกิจ ซึ่งไม่ถูกต้อง การปล่อยวางถ้าเป็นการปล่อยวางที่ใจคือการทำจิตถูกต้องแล้ว แต่ว่าปล่อยวางแล้ว ไม่ใช่ว่านิ่งเฉย ปล่อยวางอย่างรับผิดชอบ คือสิ่งที่ครอบคลุมทั้งการทำจิตและการทำกิจ ถ้าปล่อยวางแบบวางเฉย ไม่รับผิดชอบ อันนี้เรียกว่าทำจิตก็ผิด แล้วก็ละเลยเพิกเฉยไม่ทำกิจด้วย มันก็ไม่ได้เป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนา ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจ 

Om Podcasten

เสียงบรรยายธรรมของหลวงพ่อไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ